ถาม | อธิบายความแตกต่างระหว่างการตัดสินใจแบบมีโครงสร้าง (Structured Decision) และการตัดสินใจแบบไม่มีโครงสร้าง (Unstructured Decision) พร้อมยกตัวอย่างประกอบ |
ตอบ |
การตัดสินใจสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก โดยพิจารณาจากระดับความชัดเจนของปัญหาและขั้นตอนการแก้ปัญหา:
* การตัดสินใจแบบมีโครงสร้าง (Structured Decision): เป็นการตัดสินใจที่สามารถกำหนดกฎเกณฑ์หรือขั้นตอนที่ชัดเจนในการหาคำตอบได้ล่วงหน้า ปัญหาประเภทนี้มักเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและมีข้อมูลที่จำเป็นครบถ้วน ทำให้สามารถใช้ระบบสารสนเทศอัตโนมัติมาช่วยในการตัดสินใจได้ ตัวอย่าง: การอนุมัติวงเงินบัตรเครดิตตามเกณฑ์รายได้ที่กำหนดไว้ หรือการสั่งซื้อสินค้าคงคลังเมื่อจำนวนลดต่ำกว่าจุดที่ตั้งไว้
* การตัดสินใจแบบไม่มีโครงสร้าง (Unstructured Decision): เป็นการตัดสินใจที่มีความซับซ้อนสูง ไม่มีขั้นตอนที่ตายตัว ไม่สามารถกำหนดกฎเกณฑ์ที่แน่นอนได้ล่วงหน้า และมักเกี่ยวข้องกับข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์หรือต้องอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของผู้บริหาร ตัวอย่าง: การตัดสินใจว่าจะควบรวมกิจการกับบริษัทอื่นหรือไม่ หรือการวางแผนกลยุทธ์การตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่
สรุปคือ การตัดสินใจแบบมีโครงสร้างเป็นเรื่องที่ระบบทำแทนได้ ส่วนการตัดสินใจแบบไม่มีโครงสร้างต้องอาศัยวิจารณญาณของมนุษย์
|
ถาม | ยกตัวอย่างระบบสารสนเทศ 3 ประเภทที่ใช้สนับสนุนการตัดสินใจในระดับผู้บริหารที่แตกต่างกัน (ระดับปฏิบัติการ, ระดับกลาง, ระดับสูง) พร้อมอธิบายว่าแต่ละระบบช่วยในการตัดสินใจอย่างไร |
ตอบ |
* ระดับปฏิบัติการ (Operational Level):
- ระบบ: ระบบประมวลผลรายการประจำวัน (Transaction Processing System - TPS)
- การตัดสินใจ: ระบบ TPS ช่วยในการตัดสินใจแบบมีโครงสร้างในงานประจำวัน เช่น การตรวจสอบยอดสินค้าคงคลังที่เหลือเพื่อทำการสั่งซื้อใหม่ หรือการประมวลผลคำสั่งซื้อของลูกค้า
- ตัวอย่าง: พนักงานคลังสินค้าใช้ระบบ TPS เพื่อตรวจสอบสต็อกสินค้าและตัดสินใจว่าจะต้องจัดเตรียมสินค้าชิ้นใดเพื่อจัดส่งบ้าง
* ระดับกลาง (Management Level):
- ระบบ: ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (Management Information System - MIS)
- การตัดสินใจ: ระบบ MIS จะรวบรวมข้อมูลจาก TPS มาสรุปเป็นรายงานที่ช่วยให้ผู้จัดการระดับกลางสามารถวิเคราะห์ผลการดำเนินงานในอดีตได้ เช่น รายงานยอดขายรายเดือนในแต่ละสาขา เพื่อใช้ในการตัดสินใจแบบกึ่งมีโครงสร้าง (Semi-structured) เช่น การตัดสินใจว่าควรเพิ่มงบประมาณการตลาดให้สาขาใด
- ตัวอย่าง: ผู้จัดการฝ่ายขายใช้รายงานจากระบบ MIS เพื่อดูประสิทธิภาพการขายของพนักงานแต่ละคน และตัดสินใจว่าจะให้โบนัสแก่พนักงานคนใดบ้าง
* ระดับสูง (Strategic Level):
- ระบบ: ระบบสนับสนุนการตัดสินใจสำหรับผู้บริหาร (Executive Support System - ESS)
- การตัดสินใจ: ระบบ ESS จะให้ข้อมูลเชิงสรุปที่ครอบคลุมทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อช่วยผู้บริหารระดับสูงในการตัดสินใจแบบไม่มีโครงสร้างและวางแผนกลยุทธ์ในระยะยาว
- ตัวอย่าง: ประธานบริษัทใช้ ESS เพื่อดูแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคและข้อมูลยอดขายของคู่แข่งเพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะขยายตลาดไปยังต่างประเทศหรือไม่
|
ถาม | ระบบสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจ (Decision Support System - DSS) มีบทบาทสำคัญอย่างไรต่อการตัดสินใจแบบกึ่งมีโครงสร้าง (Semi-structured Decision)? และองค์ประกอบสำคัญของ DSS มีอะไรบ้าง |
ตอบ |
ระบบสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจ (DSS) มีบทบาทสำคัญในการ สนับสนุนการวิเคราะห์ข้อมูล สำหรับการตัดสินใจแบบกึ่งมีโครงสร้าง ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ต้องอาศัยทั้งข้อมูลที่เป็นระบบและความเชี่ยวชาญส่วนบุคคลของผู้ตัดสินใจ DSS ไม่ได้ตัดสินใจให้เอง แต่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถสำรวจข้อมูลและสร้างแบบจำลองสถานการณ์ต่างๆ ได้ (What-if analysis) เพื่อประกอบการตัดสินใจ
องค์ประกอบสำคัญของ DSS ได้แก่:
1. ฐานข้อมูล (Database): แหล่งที่มาของข้อมูลทั้งภายในและภายนอกองค์กร
2. แบบจำลอง (Model Base): ชุดของเครื่องมือทางคณิตศาสตร์หรือสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล เช่น แบบจำลองทางการเงิน หรือแบบจำลองเชิงสถิติ
3. ส่วนติดต่อผู้ใช้ (User Interface): ระบบที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับระบบได้อย่างง่ายดายเพื่อสอบถามข้อมูลหรือสร้างแบบจำลองต่างๆ ได้เอง
|